นักร้องหลายคนมักจะสร้างคาแรกเตอร์ให้ดูทันสมัย ดูรุ่นใหม่ แต่มีนักร้องอยู่คนหนึ่งที่คิดต่างไปจากนั้น แม้ว่าเค้าเลือกที่จะสร้างแนวทางของตัวเองได้ทั้งแบบเกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันตก อเมริกา ก็ทำได้หมด แต่เค้ากลับเลือกที่จะนำเสนอความเป็นไทยแทน ความเป็นไทยที่เค้านำเสนอนั้นต้องการที่จะตีความหมายใหม่ ให้แตกต่างไปจากเดิมเพื่อให้ได้ผลงานความเป็นไทยรูปแบบใหม่ นั่นคือ เก่ง ธชย
เก่ง ธชย คนดนตรีโดยตรง
ประวัติของ นักร้องคนนี้ต้องบอกเลยว่า เค้าเติบโตมาจากเส้นทางดนตรีไทยโดยตรง เค้าจบการศึกษาด้านดนตรีไทยและดนตรีปฏิบัติจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งบอกเลยว่ายากมากคนที่จบจากตรงนี้ได้ แสดงว่าองค์ความรู้ทางด้านดนตรีไม่ธรรมดา ยิ่งตอนเรียนเก่ง ธชย มีความโดดเด่นทางการเล่นดนตรีเป่าขลุ่ยด้วย บวกกับการร้องเพลงไทเดิมได้อีกทำให้เค้าได้รับเลือกเป็นตัวแทนนักร้องเพลงประจำวงดนตรีของวิทยาลัยด้วย
ความล้มเหลวนับร้อยครั้ง
แม้ว่าเค้าจะมีความสามารถแต่ เก่ง ธชย เองก็ไม่ต่างจากนักร้องอีกหลายคนที่ต้องผ่านความผิดหวังมานับร้อย นับพันครั้ง เค้าเองแม้ว่าจะผ่านการประกวดมามากมาย แต่เค้าแทบจะไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศเลย จนกระทั่งเค้ามาได้รางวัลโค้กมิวสิคอวอร์ด ซึ่งกว่าจะได้รางวัลมาเค้าก็ต้องไปอธิบายกับกรรมการจนเหนื่อย เนื่องจากกรรมจะไม่ให้รางวัลเพราะเค้าเคยได้รับรางวัลมาแล้ว แต่เจ้าตัวอธิบายว่านั่นเป็นประเภทวง แต่รางวัลนี้เป็นร้องเดี่ยวไม่เกี่ยวกัน ทางคณะกรรมการจึงยอมจนได้รับรางวัลในที่สุด การได้รางวัลครั้งนั้นข้อดีก็คือเค้าได้รับเงินรางวัลและเดินทางไปชมเทศกาลดนตรีที่ญี่ปุ่น ก่อนจะกลับมาร่วมงานออกเพลงกับค่ายสมอลล์รูม เค้าเล่าต่อว่าจากนั้นก็ออกทัวร์คอนเสิร์ต ฟังดูเหมือนจะดีแต่เค้าบอกว่าการขึ้นเวทีคอนเสิร์ตแล้วไม่มีแฟนเพลงคนไหนต้อนรับเลยมันน่าผิดหวังมากกว่าร้องเพลงไม่ผ่านการคัดเลือกเสียอีก ความล้มเหลวในครั้งนี้ทำให้เค้าต้องหนีไปพักใจที่บ้านเกิดจังหวัดสงขลา
จังหวะแจ้งเกิด
หลังจากพักผ่อนในบ้านเกิด เค้าก็เห็นการประกาศรับสมัครการประกวด เวทีเดอะ วอยซ์ ซีซั่นแรก ก่อนขึ้นเวทีคราวนี้เค้าปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ ตัดผมทรงใหม่ ให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น ด้านการร้องเพลงก็ปรับให้มีสไตล์ไทยเค้าไปผสมผสาน จนผลเป็นอย่างที่เห็น เค้าสามารถก้าวขึ้นไปคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีนี้ จากนั้นก็ต่อยอดผลงานมาเรื่อยจนกลายเป็นศิลปินชื่อดังจนถึงทุกวันนี้ ถือว่าเป็นนักร้องที่ต้องฟันฝ่าอะไรมากมายทีเดียวกว่าจะมาถึงจุดที่เรียกว่า ประสบความสำเร็จได้ ต้องนับถือจริงๆ